Alphard Hybrid: หรูหราเหนือระดับ ประหยัดน้ำมันด้วยพลังไฮบริด

Alphard Hybrid

เมื่อพูดถึงรถตู้สุดหรูที่ขึ้นชื่อเรื่องความสง่างาม หลายคนต้องนึกถึง “โตโยต้าอัลพาร์ด” รถ MPV ระดับพรีเมียมที่ครองใจผู้บริหารและคนมีระดับมาอย่างยาวนาน และในยุคที่โลกกำลังก้าวสู่พลังงานสะอาด Toyota Alphard Hybrid จึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับคนที่ต้องการทั้งความหรูหราและความประหยัด อัลพาร์ดไฮบริดรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาทำความรู้จักกับยนตรกรรมชั้นเลิศคันนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

Table of Contents

ทำไม Alphard Hybrid ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ?

Alphard Hybrid

รถ Alphard รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับสองทางเลือกหลัก คือรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด โดยเฉพาะ Toyota Alphard Hybrid ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากจะให้ความหรูหราแล้ว ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า ในขณะที่ยังคงความสมบูรณ์แบบของรถยนต์ระดับพรีเมียม อัลพาร์ดไฮบริดจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและรสนิยมที่เหนือระดับสำหรับผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เจาะลึกสมรรถนะ Alphard Hybrid ที่เหนือชั้น

Alphard HEV รุ่นไฮบริดมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

แม้ว่าจะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.6 เมตร และระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ทำให้ Toyota Alphard Hybrid ขับขี่คล่องตัวแม้ในพื้นที่จำกัด เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนเมืองโดยเฉพาะ ความพิเศษของอัลพาร์ดไฮบริด คือ การผสมผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ทันทีกับเครื่องยนต์เบนซินที่ให้พละกำลังต่อเนื่อง

ประหยัดน้ำมันเหนือชั้น ขับสบายระดับพรีเมียม

ข้อดีที่โดดเด่นของ Alphard Hybrid คือการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่ารุ่นเบนซินอย่างเห็นได้ชัด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 17.9 กิโลเมตร/ลิตร เทียบกับรุ่นเบนซินที่ทำได้เพียง 10.64 กิโลเมตร/ลิตรเท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองที่มักมีการจราจรติดขัด เพราะระบบไฮบริดจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพการจราจรเช่นนี้

ด้านความรู้สึกในการขับขี่ แม้อัลพาร์ดไฮบริดอาจมีการเร่งความเร็วน้อยกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อย แต่ชดเชยด้วยความเงียบที่มากกว่า เนื่องจากมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน ลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้การเดินทางในรถ Alphard เป็นประสบการณ์ที่เงียบสงบและผ่อนคลาย คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของ Toyota Alphard เพื่อเข้าใจถึงรากฐานของความเป็นเลิศที่สั่งสมมา

ความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาส

Alphard ภายในถูกออกแบบให้หรูหราและสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ เบาะนั่งใช้วัสดุคุณภาพดี นุ่มสบาย ปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันความร้อนและระบบบริหารหลังไฟฟ้า (Air Lumba Pro) ช่วยให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องสบาย

ระบบความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกใน Alphard ภายในครบครัน ทั้งหน้าจอระบบสัมผัส ระบบปรับอากาศแยกอิสระ และเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในห้องรับแขกเคลื่อนที่มากกว่ารถยนต์ทั่วไป อัลพาร์ดไฮบริดจึงไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัวชั้นเยี่ยมสำหรับทุกโอกาส

Alphard Hybrid เหมาะกับใคร? เจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ลงตัว

Toyota Alphard Hybrid ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม ไม่เพียงแต่ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนที่ใส่ใจในรายละเอียดและต้องการรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะตัว มาดูกันว่า Alphard Hybrid เหมาะกับใครบ้าง:

นักธุรกิจและผู้บริหาร - เดินทางอย่างมีระดับ

สำหรับผู้บริหารและนักธุรกิจที่ต้องการรถที่แสดงถึงสถานะทางสังคมและความสำเร็จ Alphard Hybrid มอบทั้งความหรูหราและความเป็นส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร พื้นที่ภายในกว้างขวางเป็นทั้งห้องประชุมเคลื่อนที่และพื้นที่พักผ่อนระหว่างการเดินทางไปประชุมหรือสนามบิน เบาะนั่ง Executive Lounge ปรับได้หลายทิศทางช่วยให้สามารถทำงานหรือพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย

นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของ Alphard ยังบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำที่รอบคอบ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านการเลือกใช้รถไฮบริด สะท้อนวิสัยทัศน์ของธุรกิจที่ก้าวหน้าและยั่งยืน

ครอบครัวที่ชื่นชอบการเดินทาง - ความสุขของทุกคนคือหัวใจสำคัญ

สำหรับครอบครัวที่รักการเดินทางท่องเที่ยว Alphard Hybrid มอบพื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร 7 คน พร้อมความสะดวกสบายระดับพรีเมียม เบาะนั่งแถวที่สองปรับเอนได้พร้อมที่พักขา ระบบความบันเทิงครบครัน และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องสนุกสำหรับทุกคน

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ที่ทันสมัย มอบความอุ่นใจให้กับคนขับและผู้โดยสารทุกคน ส่วนห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่รองรับกระเป๋าและอุปกรณ์สำหรับการเดินทางได้อย่างสบาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ชอบออกทริปสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว

นักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ - เดินทางแบบมีสไตล์ ประทับใจทุกการพบปะ

สำหรับผู้ที่ต้องรับรองลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ Alphard Hybrid เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ ภายในกว้างขวางพร้อมเบาะนั่งสุดหรูที่ปรับเอนได้ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งเฟิร์สคลาสบนเครื่องบิน ระบบปรับอากาศแยกอิสระช่วยให้ทุกคนสบายตลอดการเดินทาง

การมีอัลพาร์ดไฮบริดไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญจากสนามบินหรือพาไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ จะสร้างความประทับใจและแสดงถึงการให้ความสำคัญกับรายละเอียดและประสบการณ์ของลูกค้า ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

ผู้รักความหรูหราและเทคโนโลยี - ประสบการณ์ขั้นสูงในทุกการเดินทาง

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำสมัยและความหรูหรา Alphard Hybrid คือหนึ่งในรถที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ด้วยจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง JBL 15 ลำโพง และหลังคาแบบ Dual Sunroof ที่ให้ทัศนียภาพกว้างไกล

เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะและระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ เช่น กล้องมองรอบคัน ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย ผสานเทคโนโลยีไฮบริดที่ทันสมัยเพื่อการขับขี่ที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

6 ข้อดีของ Toyota Alphard Hybrid ที่ควรรู้ก่อนเป็นเจ้าของ

Alphard Hybrid

อัลพาร์ดไฮบริดมีจุดเด่นมากมายที่ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ที่มองหารถยนต์ระดับพรีเมียม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:

  1. Alphard ภายในกว้างขวาง นั่งสบายเหนือระดับ – เบาะภายในนุ่มสบาย ใช้วัสดุคุณภาพสูง มีฟังก์ชันปรับเบาะอัตโนมัติ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถ MPV หรูมากกว่ารถตู้ทั่วไป
  2. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน – อุปกรณ์ภายในทั้งหมดถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ตั้งแต่พวงมาลัย หน้าจอสัมผัส ระบบปรับอากาศแยกอิสระ ไปจนถึงเทคโนโลยีทันสมัยที่ตอบโจทย์ผู้โดยสารทุกคน
  3. ขับขี่คล่องตัวแม้ตัวใหญ่ – ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าและการออกแบบหน้าสั้น ทำให้รถ Alphard ขับขี่ได้คล่องตัวกว่าที่หลายคนคาดไว้
  4. รัศมีวงเลี้ยวดีเยี่ยม – ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.6 เมตร ทำให้การขับในเมืองเป็นเรื่องง่าย ช่วยให้เลี้ยวเข้าซอยหรือที่จอดรถได้อย่างไม่ลำบาก
  5. ประหยัดน้ำมันสุด ๆ – อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร ทำให้ Toyota Alphard Hybrid ประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารุ่นเบนซินกว่า 40%
  6. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารุ่นเบนซิน เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าในบางช่วงของการขับขี่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

5 ข้อที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ Alphard Hybrid

แม้ว่าอัลพาร์ดไฮบริดจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีบางประเด็นที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ:

  1. ราคาค่อนข้างสูง – ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 4,269,000 บาท ทำให้ Toyota Alphard Hybrid เป็นรถที่มีราคาสูงกว่ารถตู้ไฟฟ้าบางรุ่นที่เริ่มต้นที่ 2.xx ล้านบาท
  2. ค่าบำรุงรักษาระยะยาว – รถไฮบริดมีอายุการใช้งานประมาณ 7-10 ปี และหากใช้งานหนัก ค่าดูแลรักษาอาจสูงกว่ารถเครื่องยนต์ทั่วไป
  3. ระบบไฟฟ้าซับซ้อน – เมื่อเกิดปัญหากับระบบไฟฟ้า อาจทำให้ทั้งคันไม่สามารถทำงานได้ และต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
  4. แบตเตอรี่เป็นชนิดนิกเกิลเมทัลไฮดราย – แม้จะใช้งานได้ดี แต่ประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่ากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถไฮบริดรุ่นใหม่ ๆ
  5. การซ่อมบำรุงอาจใช้เวลานาน – หากเกิดความเสียหายที่ต้องซ่อมในศูนย์ อาจต้องรออะไหล่และใช้เวลาในการซ่อมนานกว่ารถทั่วไป

เปรียบเทียบ Alphard Hybrid กับรถตู้ไฟฟ้า EV - เลือกอะไรดี?

ในยุคที่ตลาดรถระดับพรีเมียมในไทยกำลังคึกคัก กับการเข้ามาของรถไฟฟ้า EV รุ่นใหม่ ๆ อย่าง DENZA D9, ZEEKR 009, XPENG X9 หรือ MG Maxus 9 หลายคนอาจลังเลว่าควรเลือก Toyota Alphard Hybrid หรือรถตู้ไฟฟ้า EV ดี มาดูข้อเปรียบเทียบสำคัญกัน:

ด้านสมรรถนะ

ทั้งอัลพาร์ดไฮบริดและรถตู้ไฟฟ้า EV มีสมรรถนะที่ดีพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่รถตู้ไฟฟ้า EV มีข้อได้เปรียบในด้านอัตราเร่งและความเงียบขณะขับขี่ ส่วน Alphard Hybrid ให้ความรู้สึกขับขี่ที่นุ่มนวลจากการผสานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า

ด้านบริการหลังการขาย

Toyota มีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้หาอะไหล่ง่ายและเข้าถึงบริการหลังการขายได้สะดวก ช่างซ่อมมีความชำนาญสูงเพราะรถ Alphard เป็นรถที่อยู่ในตลาดมานาน ในขณะที่รถตู้ไฟฟ้า EV โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่เพิ่งเข้ามา ศูนย์บริการยังมีจำนวนจำกัด อะไหล่บางชิ้นต้องสั่งนำเข้า และช่างผู้เชี่ยวชาญด้านรถ EV ยังมีน้อย

ด้านภาพลักษณ์

อัลพาร์ดถือเป็น “เจ้าพ่อรถหรู” ในตลาดเอเชีย มีภาพจำชัดเจนว่าเป็นรถสำหรับผู้บริหารและนักธุรกิจ ส่วนรถตู้ไฟฟ้า EV แม้จะมีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังอยู่ในช่วงสร้างภาพลักษณ์ และดึงดูดกลุ่มผู้ใช้รถที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากกว่า

ด้านความสะดวกในการใช้งาน

Alphard Hybrid เติมน้ำมันได้ง่ายและรวดเร็ว ปั๊มน้ำมันมีอยู่ทั่วประเทศ เหมาะกับการเดินทางไกล ส่วนรถตู้ไฟฟ้า EV มีข้อจำกัดเรื่องเวลาชาร์จที่นานกว่า และต้องวางแผนการเดินทางไกลให้แน่ใจว่ามีสถานีชาร์จตามเส้นทาง

ด้านราคาขายต่อ

Toyota Alphard Hybrid แม้ใช้งานมาหลายปีก็ยังขายต่อได้ราคาดี และมีความต้องการสูงในตลาดรถมือสอง ส่วนรถตู้ไฟฟ้า EV มีแนวโน้มราคาตกเร็วกว่า เพราะอยู่ในช่วงที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้รุ่นเก่าล้าสมัยได้ง่าย หากคุณสนใจดูรถมือสองคุณภาพดี BRG GROUP มีรถคุณภาพดีให้เลือกมากมาย

บริการพิเศษสำหรับ ALPHARD 2024 ที่ BRG GROUP

ที่ BRG GROUP เรามีบริการครบวงจรสำหรับเจ้าของ Toyota Alphard 2024 รถยนต์ MPV สุดพรีเมียมสไตล์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่เรานำเข้ามาพร้อมให้บริการแบบครบวงจร:

"Executive Hybrid Experience" - สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับอัลพาร์ดไฮบริด

เราพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าที่เลือกอัลพาร์ดไฮบริด 2024 ด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัยที่ครบครัน ทั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว, เบาะนั่งผู้โดยสารแถว 2 แบบ Executive Lounge ปรับได้ 10 ทิศทาง, จอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว, เครื่องเสียงพรีเมียม JBL 15 ลำโพง และห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console

BRG GROUP พร้อมให้คำปรึกษาในการใช้งานฟีเจอร์พิเศษเหล่านี้เพื่อให้คุณได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากรถอัลพาร์ดไฮบริด 2024 ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งโหมดการขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ (Normal Mode, ECO Mode และ EV Mode) ให้เหมาะกับสไตล์การขับของคุณ หรือการใช้งานระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 เวอร์ชันล่าสุด

"Luxury Hybrid Care" - ดูแลรถหรูของคุณแบบมืออาชีพ

BRG GROUP มีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะสำหรับรถไฮบริดและรถนำเข้า พร้อมเครื่องมือทันสมัยอย่าง Star Diagnosis, Piwis III, Techstream และ Launch diagnosis ที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เรามีบริการดูแลเป็นพิเศษสำหรับ Alphard 2024 ที่มาพร้อมหลังคาแบบ Dual Sunroof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ด้วยการตรวจเช็กระบบไฟฟ้าทั้งหมดอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกฟังก์ชันทำงานได้อย่างราบรื่น

"Premium Body & Paint" - ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังระดับโลก

บริการซ่อมสีและตัวถังมาตรฐานสูง ด้วยห้องอบพ่นสี Saico เทคโนโลยีจากอิตาลี และเครื่องดึงตัวถัง Celette จากฝรั่งเศส สามารถซ่อมรถที่เกิดอุบัติเหตุชนหนักให้กลับมาสวยงามเหมือนใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับ Alphard 2024 ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัย “Toyota Safety Sense 3.0” เวอร์ชันล่าสุด และกล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor) เรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่สามารถดูแลและซ่อมแซมเซ็นเซอร์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบความปลอดภัยทั้งหมดทำงานได้อย่างสมบูรณ์

"BRG Roadside Assistance" - ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนในประเทศไทย เราพร้อมส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเหลือคุณอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ให้ทุกการเดินทางของคุณพรีเมียม และพิเศษกว่าที่เคย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาระหว่างทาง

"Trade-Up Program" - เปลี่ยนรถเก่าให้เป็น Alphard 2024 คันใหม่

บริการใหม่ล่าสุดจาก @ccertified.official ช่วยให้คุณสามารถเทิร์นรถคันเก่าให้เป็น Toyota Alphard 2024 คันใหม่ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยครบครัน เพิ่มงบไม่มาก ก็ได้ยกระดับการเดินทางของคุณสู่มิติใหม่ พร้อมรับคำแนะนำและการดูแลที่ถูกต้องจากทีมงานมืออาชีพของเรา

สรุป

Toyota Alphard Hybrid คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการรถหรูที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้ราคาจะสูงแต่ชดเชยด้วยความหรูหราและสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยภาพลักษณ์ที่ดี ราคาขายต่อที่สูง และบริการหลังการขายที่ครบวงจรจาก BRG GROUP ทำให้ Alphard Hybrid เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย

อัลพาร์ดไฮบริด ประหยัดน้ำมันกี่กิโลต่อลิตร?

Toyota Alphard Hybrid ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่ารุ่นเบนซินเกือบเท่าตัว โดยทำได้ถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร เทียบกับรุ่นเบนซินที่ทำได้เพียง 10.64 กิโลเมตรต่อลิตร ยิ่งขับในเมืองที่รถติดบ่อย ระบบไฮบริดจะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันได้มาก ทำให้คุ้มค่าในระยะยาวแม้จะลงทุนสูงกว่าตอนซื้อ

Toyota Alphard มีกี่รุ่น?

Toyota Alphard มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่:

  • Alphard X – รุ่นเริ่มต้น Hybrid
  • Alphard GF – รุ่นรอง Top Hybrid
  • Alphard SRC – รุ่น Top Hybrid

ข้อดีของ Toyota Alphard Hybrid มีอะไรบ้าง?

ข้อดีของ Toyota Alphard Hybrid มีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ:

  • ภายในนั่งสบาย – มีการออกแบบห้องโดยสารที่เน้นความสะดวกสบาย เบาะนั่งนุ่มและใช้วัสดุคุณภาพดี มีฟังก์ชันปรับเบาะไฟฟ้า เมื่อได้นั่งจะรู้สึกเหมือนอยู่ในรถ MPV หรูมากกว่ารถตู้ทั่วไป
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน – มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งจอสัมผัส ระบบปรับอากาศแยกอิสระ และระบบความบันเทิงที่ทันสมัย ทำให้การเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งไหน
  • รถใหญ่แต่ขับง่าย – แม้จะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าและการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานในเมือง ทำให้ขับขี่ได้คล่องตัวกว่าที่คิด
  • รัศมีวงเลี้ยวดีเยี่ยม – มีรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.6 เมตร ช่วยให้กลับรถหรือเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้ง่าย แม้จะเป็นรถขนาดใหญ่
  • ประหยัดน้ำมัน – ระบบไฮบริดช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารุ่นเบนซินถึง 40% โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัด
Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.