Uncategorized

เมื่อพูดถึงรถ MPV ระดับพรีเมียม ชื่อของ “Toyota Alphard” มักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนนึกถึง การเปรียบเทียบ Alphard Hybrid vs Alphard รุ่นเบนซินเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ ด้วยความหรูหรา พื้นที่กว้างขวาง และความสะดวกสบายที่มอบให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ไม่แปลกใจเลยที่รถคันนี้จึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัว แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ควรเลือก Alphard Hybrid vs Alphard รุ่นเบนซินดี? อัลพาร์ดไฮบริดมีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับรุ่นเบนซิน? และแบบไหนคุ้มค่ากว่าในระยะยาว? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบแบบละเอียดทุกแง่มุม รู้จักกับรุ่นต่าง ๆ ของ Toyota Alphard ก่อนจะลงลึกถึงความแตกต่างระหว่างระบบไฮบริดและเบนซิน มาทำความรู้จักกับรุ่นต่าง ๆ ของ Toyota Alphard ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันกันก่อน: Alphard X – รุ่นเริ่มต้นที่ใช้ระบบไฮบริด Alphard GF – รุ่นรองท็อปที่ใช้ระบบไฮบริด Alphard SRC – รุ่นท็อปสุดที่ใช้ระบบไฮบริด Alphard SC […]

ในยุคที่รถยนต์มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ “รถครอบครัว” หรือรถยนต์อเนกประสงค์กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในเมืองไทย และไม่มีทีท่าว่าจะตกเทรนด์แม้แต่น้อย เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะรถครอบครัวน่าใช้และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยอย่างลงตัว ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ไม่ว่าจะขนสัมภาระหรือโดยสาร แม้จะเดินทางไกลแต่ยังขับขี่คล่องตัว เมื่อต้องเลือกซื้อรถยนต์สำหรับครอบครัวสักคัน หลายคนอาจสับสนว่าควรเลือกแบบไหนดี ระหว่าง SUV, MPV, PPV หรือ Crossover บทความนี้จะมาแนะนำรถครอบครัวแต่ละประเภท พร้อมจุดเด่นจุดด้อย เพื่อให้คุณเลือกรถครอบครัวรุ่นไหนดีที่เหมาะกับความต้องการของครอบครัวมากที่สุด รถครอบครัวมีกี่ประเภท? รถครอบครัวหรือรถอเนกประสงค์ที่คนไทยคุ้นเคยมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ SUV, MPV, Crossover และ PPV ซึ่งแม้จะเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเหมือนกัน แต่ก็มีรายละเอียดและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะมองหารถ 7 ที่นั่งหรือรถที่มีที่นั่งน้อยกว่า ก็มีตัวเลือกให้เหมาะกับทุกความต้องการ 1. รถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) MPV เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก มีหลังคาสูงโปร่ง เบาะนั่งสามารถพับปรับได้หลากหลาย รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 6-11 คน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน นับเป็นหนึ่งในรถครอบครัวยอดนิยมในปัจจุบัน

Toyota Alphard ครองใจคนไทยมานานด้วยความเป็นรถ MPV หรูที่ทั้งนักธุรกิจและครอบครัวให้ความนิยม ไม่ว่าจะใช้รับส่งผู้บริหาร พาครอบครัวเที่ยว หรือเดินทางไกล แต่เชื่อว่าหลายคนยังสงสัยว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า Alphard รุ่นใหม่ล่าสุด คันที่กำลังสนใจเป็นรุ่นนำเข้าหรือประกอบในไทย? วันนี้ BRG Group ขอแนะนำวิธีสังเกตง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณแยกแยะได้อย่างมือโปร พร้อมแนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด สังเกตง่าย ๆ 3 จุด เช็ก Alphard นำเข้าหรือประกอบไทย การแยกว่า Toyota Alphard คันไหนเป็นรุ่นนำเข้า (Import) หรือประกอบในไทย (Thai-made) ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงสังเกต 3 จุดหลักที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คุณก็จะรู้ทันทีว่ากำลังดูรถคันไหนอยู่ 1. สัญลักษณ์ Toyota บอกทุกอย่าง โลโก้ Toyota ที่ติดอยู่บนกระจังหน้ารถนั้นบอกอะไรเราได้มาก โลโก้สีฟ้า – เป็นเครื่องหมายของรุ่นนำเข้า (Import) ที่ใช้ระบบ Hybrid โลโก้สีดำ (นำเข้า) –

หลายคนคงสงสัยว่า Toyota Alphard vs Vellfire มันต่างกันตรงไหน? ทั้งคู่เป็นรถ MPV หรูหราจากค่ายเดียวกัน หน้าตาก็คล้าย ๆ กัน แต่ทำไมถึงมี 2 รุ่น? วันนี้เราจะมารีวิว Alphard และ โตโยต้า Vellfire อย่างละเอียด ว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับใครบ้าง เมื่อเปรียบเทียบอัลพาร์ดกับเวลไฟร์แล้ว ควรเลือกรุ่นไหนดี? โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกระหว่างรถใหม่ vs รถมือสอง บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Alphard กับ Vellfire รุ่นไหนตอบโจทย์คุณมากกว่ากัน ทำไม Toyota ถึงมี 2 รุ่นคล้ายกัน? Toyota Alphard เกิดขึ้นมาก่อน เป็นรถสำหรับผู้บริหารและครอบครัวที่ต้องการความหรูหรา ส่วนโตโยต้า Vellfire เกิดมาทีหลัง โดยใช้ฐานรถเดียวกับ Alphard แต่ดีไซน์สปอร์ตกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยมีดีไซน์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบAlphard กับ Vellfire จะพบว่า Alphard เน้นความหรูหราและสง่างาม

รีวิว Toyota Alphard ฉบับเจาะลึก! โตโยต้าอัลฟาร์ด คือรถตู้หรูที่คนไทยหลายคนใฝ่ฝัน นอกจากเป็นยานพาหนะแล้ว ยังเปรียบเสมือนห้องรับแขกเคลื่อนที่ที่ใครเห็นเป็นต้องหันมอง ถ้าคุณกำลังมองหา รถ Toyota Alphard ที่ทั้งสบาย มีฟังก์ชันครบครัน และบ่งบอกตัวตนได้ดี รีวิว Alphard ฉบับนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มาทำความรู้จัก โตโยต้าอัลฟาร์ด ให้มากขึ้นกันเลย ประวัติความเป็นมา Toyota Alphard โตโยต้าอัลฟาร์ด เป็นรถตู้หรูของโตโยต้าที่ฮิตสุด ๆ ในเอเชียและประเทศไทย รถ Toyota Alphard รุ่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้รถหรูและสบายมากขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบที่หรูหรา ในเมืองไทย โตโยต้าอัลฟาร์ด เป็นที่นิยมมากในกลุ่มเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร ดารา และคนที่ชอบความหรูหรา ด้วยหน้าตาที่ดูดีมีระดับและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน โดยเฉพาะ Alphard สีดำ ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามเป็นพิเศษ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราและภาพลักษณ์ที่ดี ด้วยมาตรฐานการผลิตจาก BRG Group ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์นำเข้าระดับพรีเมียม ดีไซน์ภายนอกของ Toyota Alphard รีวิว Toyota Alphard

  ช่วงหน้าฝนทีไร ปวดใจทุกที! อีกหนึ่งปัญหาโลกแตกของผู้ใช้รถเมื่อต้องเผชิญกับน้ำท่วม ยิ่งในบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก วันนี้ BRG มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับขับรถลุยน้ำท่วมยังไงให้ปลอดภัยที่สุดมาให้ชมกัน ! ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร ระดับน้ำใน Level นี้ ถือเป็นน้ำขังแบบเล็ก ๆ ทั่วไป ซึ่งน้ำในระดับนี้รถยนต์ปกติสามารถขับลุยน้ำได้ แต่ควรขับด้วยความระมัดระวัง ระดับน้ำ10-20 เซนติเมตร เป็นน้ำท่วมขังระดับปานกลาง รถยนต์ขนาดเล็ก ยังสามารถขับผ่านไปได้ แต่ผู้ขับขี่รถยนต์ขนาดเล็กอาจรู้สึกถึงน้ำที่มากระทบใต้ท้องรถ ดังนั้นควรชะลอความเร็วเพื่อลดการเกิดกระทบของน้ำ ระดับน้ำ 20-40 เซนติเมตร ปริมาณน้ำในระดับนี้เริ่มสูงเกินไปสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก มีโอกาสสูงที่น้ำอาจเข้าห้องเครื่อง  รวมไปถึงน้ำอาจเข้าไปเลอะพรมในห้องโดยสารได้ แนะนำว่ารถยนต์ขนาดเล็กควรหลีกเลี่ยง ส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่หรือรถกระบะ สามารถขับผ่านน้ำในระดับนี้ได้อยู่ ระดับน้ำ 40-60 เซนติเมตร น้ำในระดับนี้เริ่มเป็นอันตรายต่อรถยนต์ขนาดเล็ก แนะนำว่าหลีกเลี่ยงได้คือดีที่สุด แต่รถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถกระบะ รถยนต์ PPV และรถบรรทุก ยังคงสามารถขับผ่านไปได้ แต่ควรระมัดระวังเช่นกัน เพราะน้ำในระดับนี้เมื่อรถยนต์วิ่งผ่าน จะสร้างคลื่นแรงกระทบเข้าห้องเครื่องได้ ระดับน้ำ

 ความเชื่อผิด ๆ ที่เรามักจำฝังใจกันมาเสมอ ๆ คือการใช้ไฟฉุกเฉินในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่ผิด ซึ่งในความจริงแล้ว ความเชื่อแบบนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้งานไฟฉุกเฉิน อาจส่งผลร้ายอันตรายถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุรุนแรงถึงชีวิตได้!     ไฟฉุกเฉิน หรือ ไฟผ่าหมาก (hazard lights) คือไฟที่เป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดง ๆ ในรถยนต์ เมื่อเปิดแล้วจะเป็นไฟกระพริบที่ไฟหน้าและท้ายรถพร้อม ๆ กัน   ไฟฉุกเฉินมีเอาไว้เปิดเมื่อยามฉุกเฉินบนท้องถนนเท่านั้น เช่น รถเสีย หรือ เมื่อต้องจอดรถยนต์ฉุกเฉินข้างทาง เป็นต้น เราควรเรียนรู้การใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้องและถูกกฎหมาย  เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนและลดอุบัติเหตุร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต 2 ข้อหลักที่ไฟฉุกเฉินมักถูกใช้แบบผิด ๆ 1. ไฟฉุกเฉินไม่ควรใช้เปิดเมื่อขับรถข้ามทางแยกผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าถ้าเราเปิดไฟฉุกเฉินก่อนข้ามทางแยก อาจช่วยให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นเข้าใจว่าเราต้องการขับรถตรงไป ไม่เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา แต่ในความจริงผู้ขับขี่ฝั่งซ้ายหรือขวาของเรา อาจเห็นไฟแค่ข้างเดียว! จากภาพข้างต้นจะอธิบายได้ชัดเจนมาก ๆ สมมุติว่ารถของเราคือ คันสีแดง เราต้องการจะตรงไป หากเราเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามผ่านทางแยก จะทำให้รถสีเทา มองเห็นไฟเลี้ยวแค่เพียงฝั่งเดียวคือฝั่งซ้าย ซึ่งนั่นหมายความว่ารถสีเทาจะเข้าใจว่าเราจะเลี้ยวซ้าย จึงไม่ทำการหยุดรถ  เมื่อรถสีเทาไม่หยุดรถ ก็จะเกิดการชนกันนั่นเอง  อุบัติเหตุแบบนี้บางกรณีอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตของผู้ขับขี่ทั้ง  2 คันเลยที่เดียว

หนู  สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคที่ควรพึ่งระวัง  เพราะหนูสามารถแพร่กระจายเชื้อมายังมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ตอนนี้  หลายท่านอาจจะไม่ได้ใช้รถยนต์เพื่อขับทำงาน หรือออกไปนอกบ้านเลย  จึงมีโอกาสที่หนูจะเข้าไปกัดสายไฟรถยนต์ได้สูง  ทำให้รถยนต์มีปัญหาและเสียหายได้ในช่วงข้ามคืน นอกจากนั้นหนูยังสร้างปัญหาในเรื่องของกลิ่น เพราะหนูมักฉี่หรืออึตามที่ต่าง ๆ ที่มันได้ไป  ซึ่งบางทีกลิ่นอาจจะหลุดรอดเข้าไปภายในห้องโดยสารผ่านแอร์รถยนต์  ทำให้เวลาเราสูบดมกลิ่นเข้าไป อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสร้างกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ในห้องโดยสารได้ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หนูเข้ารถคือ การนำอาหารเข้ามารับประทานในรถยนต์ ซึ่งบางทีเราอาจจะทำอาหารตกหล่นสู่พื้นรถอย่างไม่รู้ตัว เมื่อหนูได้กลิ่นก็จะพากันเข้ามากินเศษอาหารในรถได้ การจอดรถนาน ๆ โดยไม่ขยับรถยนต์ในแหล่งที่มีหนูชุกชุม บริเวณที่สกปรกหรือสถานที่ที่มักมีเศษอาหารตกหล่นรอบ ๆ รถยนต์  เช่นใกล้ท่อระบายน้ำ ถังขยะ เป็นต้น 6 ข้อง่าย ๆ ป้องกันหนูไม่ให้กัดสายไฟในช่วงที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ 1. หมั่นทำความสะอาดห้องเครื่องด้วยตนเอง หากไม่สามารถเดินทางไปศูนย์บริการได้ 2. พยายามสตาร์ทรถยนต์ทุกวัน 3. ใช้อุปกรณ์ดักจับหนู เช่น ถาดกาวดักหนู เป็นต้น หรือใช้สเปรย์ไล่หนูก็ได้เช่นกัน 4. นำลูกเหม็นไปใส่ในถุงที่เป็นตาข่าย แล้วเอาไปวางในจุดต่าง ๆ ในห้องเครื่องรถยนต์ 5. หมั่นทำความสะอาดรถยนต์และบริเวณพื้นรอบ ๆ

 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์นำเข้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รูปแบบ MPV SUV หรือ Sedan ด้วยสาเหตุที่ออฟชั่นครบครันกว่า สามารถเลือกตามความต้องการในการปรับแต่งตัวรถได้  แม้ว่าบริษัทแม่ของเหล่ารถยนต์นำเข้าบางรุ่นไม่ได้เข้ามาทำตลาดเองหรือโปรโมทรถยนต์รุ่นพวกนี้สักเท่าไหร่ ในทางกลับกันรถยนต์นำเข้าบางรุ่นเองกลับได้กระแสตอบรับดีความนิยมถล่มทลาย     สำหรับรถใหม่น่าใช้ปี 2022 ก็เริ่มมีให้จองกันหลากหลายค่ายเลยทีเดียวอาทิ Tesla  Porsche Toyota Land Cruiser และ Jeep เป็นต้น ซึ่งแต่ละรุ่นถูกปรับเสริมเติมแต่งให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวมากขึ้น  เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้านั้น ๆ  ในตลาดบ้านเราเองก็ยังคงมีความต้องการรถประเภทนี้อยู่ไม่ใช่น้อย วันนี้ BRG จะพามาส่อง 4 รถยนต์นำเข้ารุ่นไหนน่าใช้มาแรงในปีหน้า! 4 รุ่น 4 สไตล์ รถยนต์นำเข้าน่าใช้ปี2022 1. NEW Porsche Macan 2022 NEW Porsche Macan Facelift 2022 ถูกปรับโฉมให้ดุดัน ทันสมัย เพิ่มพละกำลัง พร้อมเปลี่ยนระบบห้องโดยสารใหม่ สำหรับ NEW Porsche Macan 2022

แพลนเลย ! รวมสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ใครกำลังวางแผนเดินทาง หมดกังวลใจได้เลย เพราะวันนี้ BRG ได้รวมจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดมาให้แล้ว ไปดูกันเลย 1. จุดชาร์จไฟการไฟฟ้านครหลวง MEA กฟน. สำนักงานใหญ่เพลินจิต กฟน. เขตวัดเลียบ กฟน. เขตสามเสน กฟน. เขตบางขุนเทียน กฟน. เขตลาดกระบัง กฟน. เขตราษฎร์บูรณะ กฟน. เขตบางเขน กฟน. เขตบางใหญ่ กฟน. สมุทรปราการ กฟน. บางพูด 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ตรงข้ามโรงพยาบาลศิครินทร์) 7-Eleven สาขา สน.บางขุนนนท์ 2. ปตท. EV Station (PTT) สถานีบริการ สาขาหาดใหญ่ใน (ขาออก) จ.สงขลา สถานีบริการ สาขาพุทธมณฑล สาย 4 จ.นครปฐม สถานีบริการ