แบตเตอรี่รถยนต์มีกี่ประเภท ยี่ห้อไหนได้รับความนิยมที่สุด

แบตเตอรี่รถยนต์คือ อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟฟ้าและจัดเก็บแหล่งพลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก แบตเตอรี่รถยนต์ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังอุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ ของรถเช่น เครื่องยนต์ ระบบไฟส่องสว่างและระบบอื่น ๆ ที่ต้องการกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงเพื่อให้ทำงานได้ เช่น ระบบจุดระเบิด มอเตอร์สตาร์ท เป็นต้น  รวมไปถึงเป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรองที่ได้รับจากการหมุนของไดร์ชาร์จนั้นเอง   ในกรณีที่แบตเตอรี่มีไฟฟ้าไม่เพียงพอก็ไม่สามารถสตาร์ทรถยนต์ให้ติดได้

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมด

  1. แบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน ปกติแล้วอายุของแบตเตอรี่จะใช้ได้ประมาณ 3-5 ปี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ด้วย
  2. ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ ทำให้ประจุไฟฟ้าที่จะเข้าไปยังแบตเตอรี่เข้าได้น้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

5 สัญญาณเตือนแบตเตอรี่ใกล้หมดสภาพ

  1. เครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดช้าหรือติดยากขึ้น
  2. แสงไฟหน้ารถยนต์สว่างน้อยลง
  3. กระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
  4. ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ
  5. ใช้แบตเตอรี่มานานเกิน 2 ปี

แบตเตอรี่รถยนต์มีกี่ประเภท?

ประเภทที่ 1 แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free) หรือ SMF

 แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน หรือสังเกตง่าย ๆ คือไม่มีรูสำหรับเติมน้ำกลั่นเลย ภายในของแบตเตอรี่ตัวนี้ไม่ได้แห้งเหมือนชื่อ แต่ภายในถูกบรรจุด้วยของเหลวสำหรับทำปฏิกิริยานั้นเอง แบตเตอรี่แบบนี้มีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟมาให้เรียบร้อยจากโรงงาน

ข้อดีของแบตเตอรี่แห้ง

  • ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน สะดวก ดูแลรักษาง่าย
  • ได้รับมาตรฐานเท่ากันทุกลูก เพราะได้รับการชาร์จไฟและเติมน้ำกรดจากโรงงาน
  • แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้ดีกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ มีค่าแอมป์และค่า CCA ที่สูง แรงสตาร์ทก็มากตาม

ข้อเสียของแบตเตอรี่แห้ง

  • ราคาสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ
  • แบตเตอรี่แบบแห้ง ไม่เหมาะกับการเก็บไว้นาน ๆ โดยไม่ใช้งาน เพราะอาจเสื่อมคุณภาพลง
  • ถ้าที่ปิดผนึกด้วยซีล ไม่ใช่แบบอีเล็กโตรไลท์ ซีลของช่องหายใจหลุด อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากมีความชื้นเข้าไปข้างใน

ประเภทที่ 2 แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free) หรือ MF

แบตเตอรี่ประเภทนี้จะมีความคล้ายกับแบตเตอรี่แบบแห้ง แต่จะแตกต่างกันตรงที่แบตเตอรี่กึ่งแห้งยังคงมีรูสำหรับเติมน้ำกลั่นนั้นเอง

ข้อดีของแบตเตอรี่กึ่งแห้ง

  • ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องหมั่นเติมน้ำ (เฉลี่ยเติม 1-2 ครั้งต่อปี)
  • ราคาย่อมเยากว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • มีความทนทานสูง

ข้อเสียของแบตเตอรี่กึ่งแห้ง

  • แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง มีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่ประเภทน้ำ
  • ยังคงต้องเติมน้ำกลั่นอยู่บ้าง

ประเภทที่ 3 แบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery)

แบตเตอรี่แบบน้ำ ถือว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้มาตั้งแต่ดังเดิม มีความแตกต่างจากแบบแห้งเป็นอย่างมาก มีรูสำหรับการเติมน้ำกลั่น  ซึ่งแบตเตอรี่แบบน้ำนี้ต้องอาศัยการเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอ เพราะจะมีการสูญเสียน้ำค่อนข้างสูง ถ้าผู้ใช้งานลืมเติมน้ำกลั่นหรือปล่อยให้น้ำระเหยออกจากแบตเตอรี่หมด จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ อายุการใช้งานสั้นลง

ข้อดีของแบตเตอรี่น้ำ

  • มีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่รุ่นอื่น ๆ
  • อายุการใช้งานนานกว่า หากดูแลและเติมน้ำกลั่นอย่างถูกต้อง อาจอยู่ได้นานกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง 3-5 เดือน

ข้อเสียของแบตเตอรี่น้ำ

  • ควรหมั่นตรวจเช็กและเติมน้ำกลั่นอยู่สม่ำเสมอ
  • มีค่าแอมป์และค่า CCA น้อยกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • แบตเตอรี่แบบน้ำนี้ ทางร้านที่จัดจำหน่าย มักเป็นผู้เติมน้ำกรดและชาร์จไฟเอง ทำให้การเติมน้ำกรดและการชาร์จไฟ บางทีไม่ได้รับมาตรฐาน

ประเภทที่ 4 แบตเตอรี่แบบไฮบริด (Hybrid Battery)

แบตเตอรี่แบบไฮบริดเป็นลูกผสมของแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งและน้ำ มีค่าแรง CCA สูง มักมีขนาดใหญ่กว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น อาศัยการเติมน้ำกลั่นประมาณ 6-9 เดือนต่อครั้ง

ข้อดีของแบตเตอรี่ไฮบริด

  • ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • มีค่าแรง CCA สูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ

ข้อเสียของแบตเตอรี่ไฮบริด

  • ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ
  • ยังต้องตรวจเช็กและเติมน้ำกลั่น

ควรเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถยนต์อย่างไร?

  1. ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ได้รับมาตรฐานหรือเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียง
  2. ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เพิ่งผลิต เพราะบางทีการใช้แบตเตอรี่ที่ค้าง Stock อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดน้อยลงและเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ
  3. ควรซื้อแบตเตอรี่ให้เหมือนกับของเดิมที่ติดมากับรถยนต์ เช่น ขนาดของแบตเตอรี่ แอมแปร์ต้องเท่ากันหรือมากกว่าที่เคยติดมากับตัวรถ

ตารางเปรียบเทียบการเลือกแบตเตอรี่ให้ความเหมาะสมของผู้ใช้งาน

เลือกจาก

แบตเตอรี่ที่เหมาะสม

เหตุผล

กำลังสตาร์ทสูง

แบตเตอรี่กึ่งแห้งและแห้ง

ทำให้มีกำลังสตาร์ทสูง

ราคาถูก

แบตเตอรี่แบบน้ำ

มีราคาย่อมเยา

คุ้มราคาที่สุด

แบตเตอรี่กึ่งแห้ง

เมื่อเทียบกับราคาและคุณภาพ ถือว่าคุ้มค่าที่สุด

การดูแลรักษาน้อย

แบตเตอรี่กึ่งแห้งและแห้ง

* แบบกึ่งแห้งไม่ต้องหมั่นเติมน้ำ

* แบบแห้งไม่ต้องเติมน้ำ สะดวกต่อการใช้งาน

6 ยี่ห้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองไทย

  1. ยี่ห้อ GS Battery  เป็นผู้ผลิตและนำเข้าจัดจำหน่ายแบตเตอรี่เจ้าใหญ่รายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรองรับมาตรฐานจาก ISO 9002/QS9000/ISO 14001 และ ISO/TS 16949 และยังมีนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ได้รับมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น  อีกทั้งมีแบตเตอรี่ให้เลือกหลายรูปแบบ
  1. ยี่ห้อ Bosch เป็นแบตเตอรี่จากประเทศเยอรมัน มีราคาแพง สามารถใช้กับรถยนต์ที่ใช้งานหนัก ๆ ได้โดยกระแสไฟเสถียรไม่ตกและยังเก็บไฟได้นานโดยไม่ต้องคอยสตาร์ท อีกทั้งยังมีการพัฒนาคุณภาพแบตเตอรี่อยู่เรื่อย ๆ  มีสโลแกนเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม
  1. ยี่ห้อ 3k  ยี่ห้อนี้เป็นที่คุ้นหูคนไทยอยู่แล้ว มีหลากหลายประเภทให้เลือก หาซื้อง่าย คุ้มค่าคุ้มราคา มีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน  ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดได้รับการวิจัยและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสากล
  1. ยี่ห้อ Panasonic  แบตเตอรี่ยี่ห้อนี่มีราคาประหยัด ทนทาน มีประสิทธิภาพในการเก็บและจ่ายไฟได้เต็ม 100% อีกทั้งยังได้รับมาตรฐานตามสากลมากมาย
  1. ยี่ห้อ Amaron  แบตเตอรี่น้องใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กล้ารับประกันอายุการใช้งานถึง 24 เดือนและมีให้เลือกหลายประเภทด้วยกัน
  1. ยี่ห้อ FB  แบตเตอรี่ยี่ห้อ FB ทางแบรนด์ให้คำนิยามว่าเป็นผู้นำด้านแบตเตอรี่ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 50 ปี มีการคิดค้นวัตถุดิบใหม่ ๆ เพื่อให้ได้คุณภาพในการผลิต แบตเตอรี่มีความอึด ทน พลังสูง และมีให้เลือกหลากหลายประเภทด้วยกัน ตามความต้องการของผู้ใช้งาน

 สรุปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ มีหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ ผู้ใช้งานควรศึกษารายละเอียดแบตเตอรี่ว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดและเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามที่เหมาะสมกับตัวรถ เพื่อให้ตรงกับความต้องการและการใช้งาน   BRG แนะนำว่าผู้ใช้งานควรเลือกแบตเตอรี่ที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและไม่เสื่อมสภาพไว

ดูรายละเอียดรถรุ่นต่าง ๆ  คลิก

ดูโปรโมชั่นศูนย์บริการ คลิก  

อ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ คลิก 

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.