- ดูรุ่นที่อยากได้รถยนต์นำเข้ามีมากมายหลาย model ก่อนอื่นอาจต้องเลือกก่อนว่า design ที่เราชอบทั้งภายนอก – ภายใน ตรงกันกับรุ่นไหนบ้าง เพื่อให้จำกัดวงในการเปรียบเทียบได้ดีขึ้o
- ศึกษาข้อมูลเมื่อเลือกแบบที่อยากได้ เราจะไปเทียบดูในตลาดรถยนต์นำเข้า ว่ามี model ไหน ของยี่ห้ออะไรบ้าง ที่เป็นรุ่นเทียบเคียงกัน เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยถ้าเป็นรุ่นที่คนไม่ค่อยนิยมกันในตลาด สิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อคือ ค่าบำรุงรักษา และอะไหล่ทดแทน อาจหาได้ยาก และควรตรวจสอบด้วยว่ารุ่นนั้น ๆ มีปัญหาในการใช้งานที่จุกจิกหรือเปล่า
- ตรวจสอบสภาพคล่องทางการเงินรถยนต์นำเข้ามีราคาที่สูงกว่ารุ่นที่ผลิตภายในประเทศ เนื่องจากมีเรื่องของภาษีสรรพสามิต แม้หลาย ๆ คนที่ซื้อรถยนต์จะมีเงินสดมากพอ แต่ก็มักจะนิยมจัดไฟแนนซ์มากกว่า เพราะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้หากซื้อขายในนามนิติบุคคล ดังนั้นต้องไม่ลืมดูสภาพคล่องทางการเงินไม่ว่าจะในนามบุคคล หรือ บริษัท
- เลือกโชว์รูมที่น่าเชื่อถือสมัยนี้การนำเข้ารถยนต์มาขายเริ่มเป็นที่แพร่หลาย แต่จะมีไม่กี่เจ้าในตลาดที่เป็นผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์ทำมานาน สิ่งนี้จะช่วยให้ต้นทุนในการนำเข้ารถยนต์ถูกลง (อาจจะหลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสน) การเลือกโชว์รูมที่น่าเชื่อถือ จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดราคาในการซื้อรถยนต์นำเข้าลงได้
- ตรวจสอบใบรับรองการนำเข้าจากกรมศุลกากร (แบบ 32)เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของรถยนต์นำเข้าที่หนีภาษี ไม่จดทะเบียน ก่อนซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้มีการยื่นแบบ 32 เป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากราคาต้นทุนรถยนต์นำเข้า ไม่ได้แตกต่างกันมาก การที่เราเห็นรถยนต์นำเข้าบางโชว์รูมขายในราคาที่ต่ำผิดปกติ อย่าเพิ่งดีใจไป ควรตรวจสอบเอกสารที่ยื่นกับหน่วยงานราชการให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่เสียทั้งเงิน และเวลา ซ้ำร้ายยังมีคดีตามติด ให้คิดปวดหัวตามหลัง
- ตรวจสอบปียางรถยนต์ให้ดีบางท่านอาจชอบซื้อรถยนต์นำเข้าที่ตกรุ่นนิดหน่อย ควรตรวจสอบปีของยางรถยนต์ให้ดีว่า อายุกี่ปีแล้ว เพราะยางบางรุ่นถ้าเสื่อมสภาพอาจต้องเสียเงินเปลี่ยนอีกเป็นหลักแสน ค่าใช้จ่ายแอบแฝงแบบนี้ ไป ๆ มา ๆ ซื้อรุ่นล่าสุดอาจจะคุ้มกว่าก็ได้นะ
- เบี้ยประกันรายปีอีก 1 ค่าใช้จ่ายที่แอบซ่อนอยู่ รถยนต์บางรุ่นอาจมีค่าประกันภัยชั้น 1 สูงถึง 50,000 – 100,000 บาท แต่บางรุ่นอาจจะราคาเท่ากับรถตลาดทั่วไป ด้วยเหตุที่รถยนต์นำเข้ามีมูลค่าสูง จึงทำให้ผู้ใช้งานแทบทุกคนมักจะต้องยอมจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์อยู่แล้ว เราอาจลองเช็คเบี้ยประกันรายปีกับโชว์รูมก่อนตัดสินใจก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน
- บริการหลังการขายและศูนย์บริการสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการซื้อรถยนต์นำเข้า เพราะบางแบรนด์ไม่ได้มีศูนย์บริการในประเทศไทย ดังนั้นการเลือกโชว์รูมที่มีศูนย์ซ่อมไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ สีและตัวถัง หรือแม้แต่บริการพิเศษเรื่องการเช็คสภาพดูแลรถตามระยะ ย่อมเป็นสิ่งที่อุ่นใจสำหรับผู้ใช้งานอย่างเรา ยิ่งโชว์รูมไหนที่มีหลายที่ หลายสาขา ยิ่งเป็นผลดีต่อผู้ใช้งาน
8 ขั้นตอนเช็คสภาพรถ ก่อนรับมอบรถยนต์นำเข้า
